เมื่อถึงเวลาที่ความรักลงตัว ตกลงปลงใจกัน ใครๆก็อยากมีครอบครัวที่สมบูรณ์แบบและถูกต้องตามหลักธรรมนองครองธรรม และเมื่อเจ้าบ่าวเจ้าสาวตกลงกันดูเลิกดูชัยกันเรียบร้อยแล้วสิ่งที่ต้องเตรียมพร้อมในการจัดงานแต่งงานต้องคำนึงถึงคือ สถานที่จัดงานแต่ง งานเลี้ยง พิธีกร ของชำร่วยในงาน ซึ่งส่วนมากแล้วเดี๋ยวนี้ก็จะมีแพคเกจที่จัดการให้เราทั้งหมดแล้วแต่ราคาและสถานที่ เพื่อที่จะเก็บภาพความทรงจำที่แสนสวยงามอย่างนึงที่ขาดไม่ได้เลยก็คือ ช่างภาพงานแต่งงาน ไม่ว่าบ่าวสาวคู่ไหนก็อยากที่จะได้ภาพที่สวยงาม เพื่อให้ภาพงานแต่งของตัวเองออกมาดูดีที่สุด ด้วยเหตุนี้เราจึงต้องการช่างภาพมือโปรเพื่อที่จะสามารถตอบโจทย์เราได้อย่างดีที่สุด การจ้างช่างภาพนั้นก่อนอื่นเราควรจะดูที่งานของเราเป็นหลักเพื่อที่จะได้ทราบว่า เราต้องการภาพออกมาประมาณไหน ต้องจ้างช่างภาพกี่คน ต้องใช้กล้องกี่ตัว เราควรเลือกให้เข้ากับงานตัวเอง ต้องรู้ก่อนว่าขนาดของงานแต่งตัวเองเป็นอย่างไร สถานที่ในการจัดงานเป็นภายนอกหรือภายใน พอทราบแล้วก็ถึงขั้นตอนที่มาหาผู้ให้บริการถ่ายภาพ เราควรดูผลงานของช่างภาพแต่ละที่ที่เราเลือกมาก่อนว่าตรงหรือใกล้เคียงกับภาพที่เราอยากได้หรือไม่ ไม่แนะนำว่าให้ตัดสินใจเร็ว ควรจะมีตัวเลือกซัก 2-3 เจ้า เพราะช่างภาพแต่ละคนมีความถนัดไม่เหมือนกัน ประสบการณ์ก็ต่างกัน บางคนถนัดถ่ายรูปธรรมชาติ ผลงานที่ถ่ายธรรมชาติก็จะออกมาดูดีกว่าถ่ายรูปบุคคล บางคนถ่ายรูปงานอีเว้น งานกิจกรรมต่างๆ ก็จะสามารถคุมคนได้ เลือกมุมยืนถ่ายนั่งถ่ายที่เหมาะสมได้ เรียกว่าการจัดมุมจัดเหลี่ยมออกมาเป๊ะ อยู่ที่ประสบการณ์ของแต่ละคนเลยก็ว่าได้ ข้อแนะนำอีกอย่างคือไม่ควรเลือกช่างภาพคนเดียว ยิ่งถ้ามีงานเช้าเย็นแล้ว มี 2 คนจะดีกว่า อีกคนนึงถ่ายพิธีกร คุมแขกที่มาในงาน ช่างภาพอีกคนนึงจะถ่ายได้อย่างสบายได้ภาพที่หลากหลายกว่า ส่วนเรื่องของราคาก็จะแตกต่างกันไปโดยเฉลี่ยแล้วก็จะมีตั้งแต่หมื่นขึ้นไปถึง หลายหมื่นเลยก็มี โดยที่อุปกรณ์หรือผลงานของแต่ละที่จะแตกต่างกัน บางผู้ให้บริการใช้อุปกรณ์ที่ดีหน่อย กล้องราคาแพงหน่อยอัตราค่าบริการก็จะสูงตามไปด้วย แต่ก็ไม่จำเป็นว่าของแพงสุดจะดีที่สุดเสมอไป ยุคสมัยนี้ถูกและดีก็มีให้เห็นกันทั่วไปอยู่ที่ว่าเราตารึเปล่า พยายามดูจุดเด่นของผู้ให้บริการนั้นๆ อย่างพวกเรื่องเล็กๆน้อยๆ บางทีการพูดจา…